เมื่อพูดถึงวิธีการรักษาผู้มีบุตรยาก เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง “อิ๊กซี่” เป็นวิธีแรกๆ เพราะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้สูงกว่าวิธีอื่น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลายคนจะรู้จักและนึกถึงอิ๊กซี่เป็นอันดับแรกๆ แต่ก็เชื่อว่ามีคนอีกไม่น้อยที่อาจจะยังไม่เข้าใจอิ๊กซี่มากพอ และมีเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีนี้กันอยู่
วันนี้เราเลยอยากพาทุกคนมารีเช็กกันว่า สิ่งที่คุณรู้ ใช้เรื่องที่ถูกต้องแล้วหรือยัง?
1. อิ๊กซี่เหมือนไอวีเอฟ
หลายคนคงรู้กันอยู่แล้วว่า การทำเด็กหลอดแก้วมี 2 ประเภท ได้แก่ อิ๊กซี่ (ICSI: Intracytoplasmic Sperm Injection) และไอวีเอฟ (IVF: In Vitro Fertilization) แต่สิ่งที่หลายคนมักเข้าใจผิด หรืออาจจะไม่รู้คือ วิธีการทำอิ๊กซี่นั้น ไม่เหมือนกับวิธีไอวีเอฟ
โดยวิธีอิ๊กซี่ แพทย์จะนำเทคโนโลยีกล้องกำลังขยายสูง มาใช้คัดเลือกเชื้ออสุจิที่แข็งแรงสมบูรณ์ที่สุดมาเพียงตัวเดียวเท่านั้น แล้วใช้เข็มที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมาก ฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่ของผู้หญิงโดยตรง ด้วยกระบวนการทางห้องแล็บปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน แล้วจึงค่อยนำตัวอ่อนนั้นกลับเข้าสู่ร่างกายผู้หญิง เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป
ส่วนไอวีเอฟ แพทย์จะนำเซลล์ไข่และอสุจิหลายตัวมาผสมกันในจานเพาะเลี้ยง และปล่อยให้เซลล์ไข่และอสุจิเกิดการปฏิสนธิกันเองตามธรรมชาติ แล้วจึงค่อยนำตัวอ่อนที่ได้จากการปฏิสนธิกลับเข้าสู่ร่างกายผู้หญิง
2. อิ๊กซี่เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ 100%
ถ้าดูจากกระบวนการปฏิสนธิตัวอ่อนแล้ว จะเห็นได้ว่าวิธีอิ๊กซี่ช่วยเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิตัวอ่อนได้มากกว่าไอวีเอฟ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าอิ๊กซี่จะเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้ 100%
เพราะข้อมูลในปัจจุบันบอกไว้ว่า อิ๊กซี่ช่วยเพิ่มความสำเร็จในการปฏิสนธิระหว่างเซลล์ไข่และอสุจิได้มากถึง 90% และช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 50% เท่านั้น แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีรักษาผู้มีบุตรยากที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ
3. อิ๊กซี่ทำตอนอายุเท่าไหร่ก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกัน
ข้อควรรู้ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม คือ ผลลัพธ์ของการรักษามักจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้เข้ารับการรักษาด้วย
ดังนั้นความเชื่อที่ว่า การทำอิ๊กซี่ตอนอายุเท่าไหร่ก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกันนั้น “ไม่เป็นความจริง” โดยช่วงอายุที่เหมาะกับการทำอิ๊กซี่ คือ ไม่เกิน 35 ปี เพราะเป็นวัยที่เซลล์ไข่ และอสุจิยังไม่เสื่อมสภาพ
แต่อิ๊กซี่ก็อาจไม่เหมาะกับผู้มีบุตรยากทุกคนเสมอไป ผู้ที่ต้องการเข้ารับการรักษา ควรพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและตรวจเช็กร่างกายอย่างละเอียด
4. อิ๊กซี่ต้องนำตัวอ่อนเข้าสู่ร่างกายทันทีหลังปฏิสนธิแล้ว
หลายคนอาจคิดว่า ถ้าเกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนแล้ว ก็ต้องรีบนำเข้าสู่ร่างกายทันที เพื่อป้องกันตัวอ่อนสิ้นอายุขัย แล้วต้องเริ่มกระบวนการทุกอย่างใหม่ทั้งหมด
แต่ความจริงแล้ว ถ้าคุณและคู่สมรสเกิดเหตุฉุกเฉินที่ทำให้ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ ก็สามารถฝากแช่แข็งตัวอ่อนนั้นไว้ก่อนได้ ไว้มีความพร้อมเมื่อไหร่ ค่อยนำตัวอ่อนเข้าสู่กระบวนการตั้งครรภ์
5. อิ๊กซี่ทำที่ไหนก็ได้
เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ควรรีบทำความเข้าใจกันใหม่ เพราะแม้ว่าสถานพยาบาลหลายแห่งจะรับทำอิ๊กซี่ แต่ก็ใช่ว่าทุกที่จะให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน
ถ้าคุณอยากให้การทำอิ๊กซี่ในแต่ละครั้ง ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ดำเนินการโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีเครื่องมือทันสมัย เช่น ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากเจตนิน ที่มีบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากมายาวนานกว่า 28 ปี
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำอิ๊กซี่ได้ที่ https://jetanin.com/th/การทำเด็กหลอดแก้ว-การทำ/