ประวัติความเป็นมาของ เครื่องช่วยฟัง

0 Comments

เครื่องช่วยฟังคือ อุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ขยายเสียงให้ดังขึ้นขนาดเล็ก ประกอบด้วยไปด้วย ไมโครโฟนทำหน้าที่เป็นตัวรับเสียง ตัวขยายเสียงให้ดังขึ้นคือแอมพลิฟายเออร์ และลำโพงเป็นตัวปล่อยเสียงออก 

ซึ่งชิปคอมพิวเตอร์และเครื่องขยายจะปรับแปลงรูปแบบของเสียงให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้แต่ละบุคคลก่อนจะส่งคลื่นเสียงเข้าไปในหูโดยผ่านทางเครื่องขยายเพื่อให้ผู้ที่ใช้งานสามารถ ฟังเสียงได้ดีขึ้น ทำให้หูได้ทำตามหน้าที่สำหรับผู้ที่สูญเสียการได้ยินเป็นเวลานาน ลดเสียงรบกวนภายในหู  อีกทั้งยังช่วยให้สามารถสื่อสารด้วยการพูดและฟังกับผู้อื่นในชีวิตประจำวัน และใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติเฉกเช่นเดียวกับคนทั่วไปอีกด้วย

ส่วนประวัติที่มาของเครื่องช่วยฟัง ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน 

เครื่องช่วยฟังเครื่องแรกคือแตรหู ​​และถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เครื่องช่วยฟังในยุคแรกๆ เป็นเครื่องช่วยฟังภายนอก เครื่องช่วยฟังภายนอกจะส่งเสียงไปที่ด้านหน้าของหูและปิดกั้นเสียงอื่นๆ ทั้งหมด อุปกรณ์จะพอดีกับด้านหลังหรือในหู

และได้มีการพัฒนาเรื่อยมาไปสู่เครื่องช่วยฟังสมัยใหม่ เริ่มต้นด้วยการสร้างโทรศัพท์ และเครื่องช่วยฟังไฟฟ้าเครื่องแรก “อะคูโฟน” ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2438 โดยมิลเลอร์ รีส ฮัทชิสัน ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ที่เครื่องช่วยฟังแบบดิจิทัลมีจำหน่ายในเชิงพาณิชย์

เครื่องช่วยฟังไฟฟ้าเครื่องแรกใช้ไมโครโฟนคาร์บอนของโทรศัพท์และเปิดตัวในปี พ.ศ. 2439 หลอดสุญญากาศทำให้การขยายสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปได้ แต่เครื่องช่วยฟังแบบขยายเสียงรุ่นแรก ๆ นั้นหนักเกินกว่าจะพกพาไปไหนมาไหนได้ การทำให้หลอดสุญญากาศมีขนาดเล็กลงทำให้เกิดโมเดลแบบพกพา และหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โมเดลที่สวมใส่ได้โดยใช้หลอดจิ๋ว ทรานซิสเตอร์ที่ประดิษฐ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2491 นั้นเหมาะสมอย่างยิ่งกับการประยุกต์ใช้เครื่องช่วยฟัง เนื่องจากใช้พลังงานต่ำและมีขนาดเล็ก เครื่องช่วยฟังเป็นการนำทรานซิสเตอร์มาใช้ในยุคแรกๆ การพัฒนาวงจรรวมช่วยให้สามารถปรับปรุงขีดความสามารถของอุปกรณ์ช่วยสวมใส่ได้มากขึ้น รวมถึงการใช้เทคนิคการประมวลผลสัญญาณดิจิทัลและความสามารถในการตั้งโปรแกรมสำหรับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน

ในปัจจุบัน เครื่องช่วยฟังนั้นมีอยู่หลากหลายประเภทและองค์ประกอบ และมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ดังนั้น ผู้ใช้จึงควรที่จะจำเป็นต้องรู้เพื่อประกอบการตัดสินใจ และผู้ที่จะได้ประโยชน์จากการใช้เครื่องช่วยฟัง คือ บุคคลดังต่อไปนี้

1.ผู้ที่สูญเสียการได้ยินที่ส่งผลต่อการสื่อความหมายและการเข้าใจความหมาย

2.ผู้ที่สูญเสียการได้ยินและไม่สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาหรือการผ่าตัด 

3.ผู้ที่สูญเสียการได้ยินที่จะส่งผลต่อพัฒนาการทางภาษา การพูด และการสื่อสารตั้งแต่กำเนิด

4.ผู้ที่สูญเสียการได้ยินจากโรคหูแต่มีข้อห้ามในการผ่าตัด เช่น เป็นโรคหัวใจ หรือผู้ที่หูหนวกเพียงข้างเดียวแต่อีกข้างยังคงได้ยินเสียงตามปกติ เป็นต้น

ปัจจัยที่จำเป็นและสำคัญในการเลือกเครื่องช่วยฟัง คือ อาการและความรุนแรงของปัญหาการได้ยินรวมถึงความจำเป็นมากน้อยในการใช้เครื่องช่วยฟังที่ต่างกันออกไปของแต่ละบุคคล ซึ่งผู้ใช้จะเลือกเครื่องช่วยฟังภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ แพทย์หูคอจมูกหรือนักโสตสัมผัสวิทยาเท่านั้น 

Related Posts

โรคหัวใจ

โรคหัวใจเป็นเรื่องที่จะละเลยไปไม่ได้

0 Comments

ในเรื่องของโรคหัวใจนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นโรคที่เราก็ควรที่จะต้องระมัดระวังให้มากๆด้วยจะยิ่งดีเพราะว่าคนที่เป็นโรคหัวใจนั้นก็ควรที่จะต้องระวังอย่าให้ทำอะไรที่มีความเสี่ยงเพราะว่าการที่ทำอะไรที่มีความเสี่ยงสูงนั้นก็จะทำให้เกิดอันตรายขึ้นอย่างมากมายเลย โรคหัวใจนั้นก็จะมีอาการที่มากมายที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างโรคหลอดเลือดหัวใจอันนี้มักจะส่งผลให้มีอาการเจ็บหรือแน่นหน้าอก ร้าวไปตามกราม แขน ลำคอ ท้อง หรือบริเวณหลัง และบางครั้งอาจมีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง…

คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู รามคําแหง

คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู รามคําแหง กับการรักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา

0 Comments

                คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู รามคําแหง เป็นคลินิกที่ช่วยรักษาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกาย เช่น อาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อและอวัยวะส่วนต่าง ๆ กลับมาใช้งานได้ตามปกติและมีสมรรถภาพทางร่างกายที่พร้อมสำหรับการเล่นกีฬา การแข่งขัน…

ทำเลสิกราคา

ทำเลสิกราคาเบาๆ เลือกอย่างไร

0 Comments

เมื่อเอ่ยถึงการแก้ไขปัญหาค่าสายตาผิดปกติ ทั้งสายตายาว สายตาสั้นและสายตาเอียง สิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้คือการใช้แว่นสายตา การใช้คอนแทคเลนส์ เนื่องจากว่าสองวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายดาย ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด  แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือการทำเลสิค อย่างไรก็ดีการทำเลสิกราคาเบาๆ…