การดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหาร

รวมวิธีการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารที่คุณควรรู้

0 Comments

การใส่สายยางให้อาหาร เป็นวิธีการให้อาหารในผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ เช่น ผู้ป่วยที่มีปัญหาการกลืน ผู้ป่วยที่ผ่าตัดลำคอหรือหลอดอาหาร หรือผู้ป่วยที่นอนติดเตียง เป็นต้น

โดยการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารอย่างปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้สายยางอุดตันหรือเกิดการอักเสบของทางเดินอาหาร ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆได้ โดยวิธีการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารอย่างปลอดภัยที่คุณควรรู้ มีดังนี้

ตำแหน่งของสายยางให้อาหาร

สายยางให้อาหารควรอยู่ในกระเพาะอาหาร ซึ่งแพทย์หรือพยาบาลจะทำการทดสอบตำแหน่งของสายยางให้อาหารก่อนใส่สายยางให้อาหารทุกครั้ง โดยหากสายยางอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเมื่อหายใจเข้าหรือกลืนอาหาร แต่หากสายยางอยู่ในตำแหน่งที่ผิด อาจทำให้เกิดอาการอาหารไหลย้อนกลับเข้าไปในหลอดลมหรือปอด ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการสำลัก ไอ หรือหายใจลำบาก ซึ่งหากคุณสงสัยว่าสายยางของผู้ป่วยอยู่ในตำแหน่งที่ผิด ควรรีบแจ้งแพทย์หรือพยาบาลทันที

การทำความสะอาดสายยางให้อาหาร

สายยางให้อาหารเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ซึ่งหากไม่ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินอาหารได้ คุณจึงควรทำความสะอาดสายยางให้อาหารของผู้ป่วยอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำยาทำความสะอาดที่ได้รับอนุญาตจากแพทย์

การดูดเสมหะจากสายยางให้อาหาร

หากมีน้ำมูกหรือเสมหะอุดตันในสายยาง อาจทำให้เกิดอาการอาหารไหลย้อนกลับเข้าไปในหลอดลมหรือปอดของผู้ป่วยได้ คุณจึงควรดูดเสมหะจากสายยางให้อาหารของผู้ป่วยอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

การดูแลสายยางให้อาหารให้สะอาดและปลอดภัย

คุณควรเก็บสายยางให้อาหารให้ห่างจากแหล่งน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้สายยางเปียกหรือเปื้อน และควรหลีกเลี่ยงการงอหรือบิดสายยางให้อาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้สายยางเสียหาย ที่สำคัญ คุณควรเปลี่ยนสายยางให้อาหารของผู้ป่วยทุก 2-4 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์

สังเกตอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด

หากผู้ป่วยมีอาการปวดท้อง อาเจียน ท้องอืด หรือท้องเสีย คุณควรรีบแจ้งแพทย์หรือพยาบาลโดยทันที เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการใส่สายยางให้อาหาร

โดยการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารอย่างปลอดภัยและใกล้ชิด จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้

นอกเหนือจากวิธีการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารอย่างปลอดภัยที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีข้อควรระวังอื่นๆเพิ่มเติมที่คุณควรรู้ ดังนี้

  • ไม่ควรให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารหรือน้ำทางปาก
  • ไม่ควรบีบสายยางให้อาหารมากเกินไป
  • ไม่ควรดึงสายยางให้อาหารออกเอง

โดยหากคุณหรือคนใกล้ตัวต้องใส่สายยางให้อาหาร คุณควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารอย่างปลอดภัยโดยละเอียด เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยได้

Related Posts

โรคเบาหวาน

โรคเบาหวานที่เราจะต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น

0 Comments

ในปัจจุบันนี้เรื่องของโรคเบาหวานนั้นก็เป็นเรื่องที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสนใจและให้ความสำคัญอย่างที่สุดเพราะว่าในเรื่องของโรคเบาหวานนั้นเราจะต้องรู้จักที่จะดูแลตนเองให้มากๆเพราะถ้าหากเราเกิดมีเบาหวานขึ้นมาแล้วก็จะเป็นเรื่องที่ไม่ดีกับเราเองอีกด้วย เพราะทุกๆอย่างในเรื่องของเบาหวานนั้นเราเองจึงควรที่จะต้องอย่ามองข้ามไปแล้วก็จะต้องยิ่งให้ความสำคัญมากๆด้วยเพราะถ้าหากเราไม่ให้ความสำคัญไปแล้วจะยิ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีกับเราเองอีกด้วย เพราะทุกๆอย่างในเรื่องของเบาหวานนั้นเราจะต้องกลัวเนื่องจากว่าถ้าหากเราเป็นเบาหวานหรือมีน้ำตาลที่มากจนทำให้อาจจะต้องตัดแขนหรือตัดขาได้ อาการที่บ่งบอกว่าเราอาจจะเป็นเบาหวานได้ก็จะมีในส่วนของการปัสสาวะบ่อยและมีปริมาณมาก  เมื่อฮอร์โมนอินซูลินที่ตับอ่อนผลิตได้ไม่เพียงพอหรือไม่สามารถผลิตได้ ระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้นกว่าปกติก็จะทำให้ผู้ที่เป็นเบาหวานนั้นถ่ายได้บ่อยกว่าปกติด้วย นอกจากนี้ก็จะมีในเรื่องของการกระหายน้ำ เนื่องจากการสูญเสียน้ำจากการปัสสาวะบ่อยครั้ง ร่างกายจึงจำเป็นต้องชดเชยน้ำที่เสียไป ทำให้มีความกระหายน้ำ…

การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพประจำปี 

0 Comments

การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมุ่งเน้นไปที่การตรวจคัดกรองโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ยกเว้นในบางกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงสูง เช่น ประวัติครอบครัวเป็นโรคร้ายแรง โรคประจำตัว หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ…

คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู รามคําแหง

คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู รามคําแหง กับการรักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา

0 Comments

                คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู รามคําแหง เป็นคลินิกที่ช่วยรักษาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกาย เช่น อาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อและอวัยวะส่วนต่าง ๆ กลับมาใช้งานได้ตามปกติและมีสมรรถภาพทางร่างกายที่พร้อมสำหรับการเล่นกีฬา การแข่งขัน…